ประวัติวัดไร่สวรรค์
วัดไร่สวรรค์เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยมีพระธรรมปริยัติโมลี (อดีตเจ้าคณะภาค ๘ และอดีตเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาสพระอารามหลวง) เป็นประธาน มีพระครูโพธานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิวรารามและอดีตรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุดรธานี เป็นรองประธาน มีคุณแม่วิลัย ธรรมรังษี เป็นผู้ถวายที่ดินสร้างวัดจำนวน ๖ ไร่ (ปัจจุบันทางวัดได้ซื้อเพิ่มเติมอีก ๒๒ ไร่ เป็น ๒๘ ไร่ )
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พระธรรมปริยัติโมลี จึงสั่งให้ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะให้เหมาะสมแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณรต่อไป และให้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาให้ถูกต้องด้วย ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดหนองวัวซอธรรมรังษี เพื่อให้เป็นวัดของชาวบ้านหนองวัวซอทุกคน และมีนามสกุลของเจ้าภาพผู้ถวายที่ดินต่อท้ายชื่อวัดด้วยเพื่อเป็นเกียรติ์แก่วงศ์ตระกูลสืบไป
ทางชาวบ้านจึงได้ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆและได้ขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาในปีนั้น โดยมีผู้ใหญ่บุญมี แสนหอมคำ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่สวรรค์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญนำพาชาวบ้านสร้างวัดและเป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัด
โดยมีหลวงพ่อคำใบ มารชิโน จากวัดโพธิวราราม จังหวัดอุดรธานีเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ท่านเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านมากได้นำพาญาติโยมก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ให้เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะแก่การเป็นที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม ของพระสงฆ์สามเณรตามลำดับมา
แต่การขออนุญาตจากกรมการศาสนายังไม่แล้วเสร็จ ท่านก็มรณภาพในปี ๒๕๓๓ ประชุมเพลิงในปี ๒๕๓๔ ในปีนั้นชาวบ้านได้อาราธนา พระมหาสังคม สิรินฺธโร จากวัดโพธิวราราม มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาต่อ และได้ก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ปลูกต้นไม้ภายในวัดให้ร่มรื่นเพื่อเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ต่อจากที่อดีตเจ้าอาวาสได้ทำไว้จนแล้วเสร็จเป็นลำดับมา
ในปี ๒๕๓๖ ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดจากกรมการศาสนา
ในปี ๒๕๓๗ ได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดจากกรมการศาสนา และทางกรมการศาสนาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดไร่สวรรค์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ชื่อ พระมหาสังคม ฉายา สิรินฺธโร อายุ ๔๔ ปี พรรษา ๒๔
วิทยาฐานะ ม. ๖
น.ธ. เอก ป.ธ.๓ วัดไร่สวรรค์ ตำบลหนองวัวซอ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
สถานะเดิม
ชื่อ สังคม นามสกุล สีลาวงศ์
วันเกิด ๒ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ปีมะแม
บิดา นายสมดี มารดา นางอุดม
บ้านเลขที่ ๒๔ หมู่ที่ ๓ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
อุปสมบท
วันที่ ๕ เดือนกรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ปีเถาะ ณ. วัดโพธิวราราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระอุปัชฌาย์ : พระธรรมปริยัติโมลี วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระกรรมวาจาจารย์ : พระครูสังฆรักษ์เสถียร วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระอนุสาวนาจารย์ : พระครูสมุห์ถวิล วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๕๒๐ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านหนองวัวซอ ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๒๘ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ สำนักวัดโพธิวราราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๓๑ สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค สำนักวัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๔๓ จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
งานปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่สวรรค์
พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดไร่สรรค์
พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหมากหญ้า
สมณะศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ที่ พระครูธำรงสุตาภรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ที่ ราชทินนามเดิม
ที่มาของข้อมูล : พระครูธำรงสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดไร่สวรรค์
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พระธรรมปริยัติโมลี จึงสั่งให้ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะให้เหมาะสมแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณรต่อไป และให้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาให้ถูกต้องด้วย ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดหนองวัวซอธรรมรังษี เพื่อให้เป็นวัดของชาวบ้านหนองวัวซอทุกคน และมีนามสกุลของเจ้าภาพผู้ถวายที่ดินต่อท้ายชื่อวัดด้วยเพื่อเป็นเกียรติ์แก่วงศ์ตระกูลสืบไป
ทางชาวบ้านจึงได้ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆและได้ขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาในปีนั้น โดยมีผู้ใหญ่บุญมี แสนหอมคำ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่สวรรค์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญนำพาชาวบ้านสร้างวัดและเป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัด
โดยมีหลวงพ่อคำใบ มารชิโน จากวัดโพธิวราราม จังหวัดอุดรธานีเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ท่านเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านมากได้นำพาญาติโยมก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ให้เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะแก่การเป็นที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม ของพระสงฆ์สามเณรตามลำดับมา
แต่การขออนุญาตจากกรมการศาสนายังไม่แล้วเสร็จ ท่านก็มรณภาพในปี ๒๕๓๓ ประชุมเพลิงในปี ๒๕๓๔ ในปีนั้นชาวบ้านได้อาราธนา พระมหาสังคม สิรินฺธโร จากวัดโพธิวราราม มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนาต่อ และได้ก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ปลูกต้นไม้ภายในวัดให้ร่มรื่นเพื่อเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ต่อจากที่อดีตเจ้าอาวาสได้ทำไว้จนแล้วเสร็จเป็นลำดับมา
ในปี ๒๕๓๖ ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดจากกรมการศาสนา
ในปี ๒๕๓๗ ได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดจากกรมการศาสนา และทางกรมการศาสนาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดไร่สวรรค์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ประวัติเจ้าอาวาส
พระครูธำรงสุตาภรณ์
ชื่อ พระมหาสังคม ฉายา สิรินฺธโร อายุ ๔๔ ปี พรรษา ๒๔
วิทยาฐานะ ม. ๖
น.ธ. เอก ป.ธ.๓ วัดไร่สวรรค์ ตำบลหนองวัวซอ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
สถานะเดิม
ชื่อ สังคม นามสกุล สีลาวงศ์
วันเกิด ๒ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ปีมะแม
บิดา นายสมดี มารดา นางอุดม
บ้านเลขที่ ๒๔ หมู่ที่ ๓ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
อุปสมบท
วันที่ ๕ เดือนกรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ปีเถาะ ณ. วัดโพธิวราราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระอุปัชฌาย์ : พระธรรมปริยัติโมลี วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระกรรมวาจาจารย์ : พระครูสังฆรักษ์เสถียร วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พระอนุสาวนาจารย์ : พระครูสมุห์ถวิล วัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๕๒๐ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านหนองวัวซอ ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๒๘ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ สำนักวัดโพธิวราราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๓๑ สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค สำนักวัดมัชฌิมาวาส ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๔๓ จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
งานปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่สวรรค์
พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดไร่สรรค์
พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหมากหญ้า
สมณะศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ที่ พระครูธำรงสุตาภรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร
เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ที่ ราชทินนามเดิม
ที่มาของข้อมูล : พระครูธำรงสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดไร่สวรรค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น